ป้ายกำกับ วิหารพระเขียวโขงเชื่อมโยงตำนานประวัติพระเจ้าห้าพระองค์
หมวดหมู่ กิจกรรมของทางวัด ครูบารอินทร วัดสันป่ายาง ทั่วไป-อื่นๆ เกี่ยวกับทางวัดสันป่ายางหลวง
วิหารพระเขียวโขงเชื่อมโยงตำนานประวัติพระเจ้าห้าพระองค์
วิหารพระเขียวโขงหลังนี้พระครูปัญญาธรรมวัฒน์(พระครูบาอินทร ปัญญาวัฑฒโน) เจ้าอาวาสวัดสันป่ายางหลวงองค์ปัจจุบันได้เริ่มสร้างเมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๔๖ (วันยกเสาเอก) วัสดุอุปกรณ์การก่อสร้างได้จัดซื้อและนำเข้าจากต่างประเทศ มีไม้ตะเคียนทอง , ไม้แดง จากประเทศลาวและประเทศพม่ากับไม้ในประเทศไทยบางส่วน ท่านพระครูบาอินทร ปัญญาวัฑฒโน ได้เป็นผู้ออกแบบโครงสร้างและลวดลายพื้นเมืองผสมผสานระหว่างของเก่ากับของใหม่ สิ้นทุนทรัพย์ในการก่อสร้างประมาณ ๒๘ ล้านบาทเศษจึงแล้วเสร็จในปี พ.ศ.๒๕๕๐ ได้ทำการฉลองฝากไว้ในบวรพุทธศาสนา รวมทั้งสร้างระฆังหลวงเนื้อสำริดพร้อมหอประดิษฐาน สิ้นเงิน ๑๐,๔๐๐,๐๐๐ บาท(สิบล้านสี่แสนบาท) สร้างเรือนไม้สักไว้ด้านทิศเหนือ ๒ หลัง สิ้นเงินค่าก่อสร้าง ๔,๖๐๐,๐๐๐ บาท(สี่ล้านหกแสนบาท) สร้างวิหารครอบรอยพระพุทธบาทจำลองสี่รอยและพระนิลสมุทร(พระแร่เกาะล้าน) สิ้นเงิน ๒,๗๐๐,๐๐๐ บาท(สองล้านเจ็ดแสนบาท) สร้างพระนอน(ปางปรินิพพาน)ด้วยหยกสีขาวพร้อมฐานชุกชี สิ้นเงิน ๑,๙๐๐,๐๐๐ บาท(หนึ่งล้านเก้าแสนบาท) สร้างกุฏิไม้สักตรงข้ามพระเจดีย์ ๑ หลังพร้อมแท็งค์น้ำ สิ้นเงิน ๓,๘๐๐,๐๐๐ บาท(สามล้านแปดแสนบาท) สร้างพระพุทธรูปหยกเขียวมรกตดำ ๑ องค์พร้อมมณฑป ๑ หลัง บนยอดมณฑปประดิษฐานพระแก้วขาวเสตังคมณี สิ้นเงิน ๑,๓๐๐,๐๐๐ บาท(หนึ่งล้านสามแสนบาท) สร้างกุฏิพระภิกษุและสามเณรด้านทิศตะวันตกอีก ๑ หลัง สิ้นเงิน ๒,๘๐๐,๐๐๐ บาท(สองล้านแปดแสนบาท) รวมเป็นเงินค่าก่อสร้างทั้งสิ้น ๖๕,๔๐๐,๐๐๐ บาท
(หกสิบห้าล้านสี่แสนบาท) เป็นที่เรียบร้อย
พระวิหารพระเขียวโขงนี้จะเป็นที่ประดิษฐานพระหยกเขียวซึ่งนำมาจากแม่น้ำโขง พระนามเต็มของพระเขียว คือ พระพุทธอัญญรัตนมหานทีศรีหริภุญชัย ซึ่งเหมือนพระพุทธศีศากยโคดมองค์ปัจจุบัน
ในการสร้างวิหารหลังนี้เชื่อมโยงกับตำนาน ผางปะตี้ด ซึ่งเป็นตำนานเริ่มต้นของการตั้งความปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ของ ๕ พี่น้อง โดยมีเนื้อเรื่องในธรรมใบลานนั้นว่า สมัยหนึ่ง มีกาเผือกตัวหนึ่งได้ทำรังอยู่บนต้นไม้ใกล้ฝั่งแม่น้ำ แม่กาได้ไข่ออกมา ๕ ฟองแล้วก็กกอยู่ เช้าวันหนึ่งขณะที่แม่กาเผือกออกไปหากิน ก็เริ่มมีลมแรงฝนก็เริ่มตกลงมาอย่างหนักจนทำให้รังกาเผือกนั้นตกลงไปในแม่น้ำ แม่กาเผือกก็ตายไป ดวงวิญญาณก็ไปจุติอยู่ในพรหมโลกชื่อสกุณวกาพรหม ฝ่ายไข่ทั้ง ๕ ฟองก็กระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง
ฟองที่ ๑ ในเช้าวันนั้นมีแม่ไก่ตัวหนึ่งลงไปกินน้ำในแม่น้ำก็ได้พบไข่ แม่ไก่ก็เกิดรักไข่กาเผือก จึงเขี่ยไข่นั้นเข้าริมฝั่ง แล้วก็ฟักไข่ใบนั้น
ฟองที ๒ นางพญานาคตัวหนึ่งมาพบจึงได้เอาไปกกไว้ด้วยความรักและเมตตา
ฟองที่ ๓ แม่เต่ามาพบจึงได้นำเลี้ยงดูไว้
วิหารพระเขียวโขงเชื่อมโยงตำนานประวัติพระเจ้าห้าพระองค์ – ๒ –
ฯฯฯฯฯฯฯฯฯ
ฟองที่ ๔ แม่โคตัวหนึ่งมาพบที่ริมฝั่งแม่น้ำจึงนำไปกกเลี้ยงดูไว้
ฟองที่ ๕ หญิงชาวบ้านคนหนึ่งลงไปซักผ้าที่ริมฝั่งแม่น้ำ ไปพบเข้าจึงเอาไปฟักไว้
ผ่านไปไม่นานไข่ทั้ง ๕ ฟองก็แตกออกกลายเป็นเด็กผู้ชายออกมาทั้ง ๕ คน แม่ทั้ง ๕ คนต่างก็ทะนุถนอมดูแลเลี้ยงลูกทั้ง ๕ คนอย่างดี จนเวลาผ่านไป ๑๖ ปี เด็กชายทั้ง ๕ นั้นก็เติบโตเป็นหนุ่ม วันหนึ่งจึงบอกลาแม่ขอไปเที่ยวชมป่าเขาลำเนาไพร ระหว่างที่เพลิดเพลินกับการชมป่า เด็กหนุ่มทั้งห้าคนก็ได้พบกันโดยบังเอิญ ณ กลางป่าแห่งหนึ่ง ต่างคนต่างก็มองหน้ากันไปมา เพราะทั้งห้าคนมีมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกัน ต่างคนต่างก็ถามกันว่าอยู่แห่งหนตำบลใด?มีใครเป็นแม่? หลังจากนั้นเด็กหนุ่มทั้งห้าคนก็เดินทางกลับมายังที่พักของตน ต่างก็ถามมารดาของตน จึงได้รู้ว่าเด็กหนุ่มทั้งห้าคนเป็นลูกแม่กาเผือก ก็เลยกลับไปพบกันอีกที่กลางป่าที่เดิม จึงได้บอกแก่กันและกันว่าเราทั้งห้าตนเป็นพี่น้องกัน จากนั้นก็กลับมากราบลาแม่ของตนแล้วพากันออกบวชเป็นฤาษีดาบส ฤาษีทั้งห้าต่างก็พากันเจริญภาวนาจนได้รู้เรื่องราวว่า แม่ที่แท้จริงของตนนั้นคือแม่กาเผือก ได้ไปเกิดจุติใสชั้นพรหมโลก จึงพากันเจริญญาณสมาบัติและได้ไปพบแม่ คือ สกุณาวกาพรหมในพรหมโลกโน้น แม่ก็เล่าเรื่อง
ในวันพลัดพรากกันให้ฟัง จนแม่ได้ตายลงในแม่น้ำ ได้มาเกิดในพรหมโลกนี้ และได้บอกต่อไปว่า ลูกทั้งห้าของแม่ต่างได้ปรารถนาเป็นพี่น้องกันมาหลายภพหลายชาติ กับทั้งปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อสั่งสอนมวลหมู่มนุษย์ให้พ้นจากกองทุกข์ในวัฏฏสงสาร ลูกๆเมื่อได้สิ้นบุญจากภพชาตินี้แล้วก็จะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เมื่อบารมีลูกเติมแล้ว พี่ชายคนโตก็จะได้มาเกิดเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์แรกมีพระนามว่าพระพุทธเจ้ากกุสันโธ เพื่อพระพุทธเจ้าองค์ที่๑ ปรินิพพานไปแล้ว พี่ชายคนที่ ๒ ก็จะได้มาเกิดต่อเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ที่ ๒ มีพระนามว่าโกนาคะมโน เมื่อสิ้นอายุพระพุทธศาสนาพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๒แล้ว พี่ชายคนที่ ๓ ก็จะได้มาเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระนามว่ากัสสโป จนปรินิพพาน ลูกชายคนที่ ๔ ของแม่ก็จะได้มาเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีรพนามว่าโคตะโม จนปรินิพพาน และสุดท้ายน้องสุดท้องก็จะได้มาเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ มีพระนามว่าศรีอริยเมตไตรย สืบอายุพระพุทธศาสนา จนปรินิพพาน เมื่อลูกทั้ง ๕ ได้ทราบเรื่องแล้วก็เลยได้ถามแม่ว่า เมื่อลูกได้อยู่ในเมืองมนุษย์ปรารถนาจะบูชาคุณของแม่กาเผือกจะทำอย่างไรดี? สกุณาวกาพรหมจึงบอกว่า เมื่อถึงวันยี่เป็งพระจันทร์เต็มดวงแห่งเดือน ๑๒ มาถึง ให้ลูกนำด้ายมาฝั้นเป็นรูปตีนการแล้วนำภาชนะดินใส่ด้ายและเทียนขี้ผึ้งลงไป แล้วจุดบูชาเพื่อเป็นการระลึกถึงแม่ก็จะเป็นบุญเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่แก่ลูกหลานและมหาชนสืบไป ตั้งแต่นั้นมาจึงมีประเพณีเมื่อถึงวันเพ็ญเดือน ๑๒ หรือเดือนยี่เป็ง ก็จะมีพิธีบูชาผางประทีปสืบมาและฟังธรรมมหาชาติ ๑๓ กัณฑ์มาจนถึงปัจจุบันทุกวันนี้
วิหารพระเขียวโขงเมื่อมองจากด้านหน้าจะมีหลังคา ๕ ชั้น มีช่อฟ้า ๕ ตัว หมายถึง พระเจ้า ๕ พระองค์ ด้านหลังอีก ๓ หมายถึง ศีล สมาธิ ปัญญา หมายถึงการปฏิบัติของพระพุทธเจ้าเพื่อเดินเข้าสู่พระนิพพาน หน้า ๕ + หลัง ๓ รวมเป็น ๘ หมายถึง ต้องปฏิบัติตามทางสายกลาง คือ มรรค ๘ ได้ธรรมมัชฌิมา ทางสายกลางคือ ๙ เป็นโลกุตตรธรรม
ตรงกลางหลังคามีเรือหงษ์ มีฉัตรอยู่ หมายถึง โลกุตตรธรรม หรือ นิพพาน ความสงบดับเย็นจากกิเลศตัณหา
ด้านล่างมีรูปปั้นผางประทีป เปรียบเหมือนรังกา และกาเผือกนอนในรัง
มีรูปพรหมสี่หน้านั่งอยู่บนหลังกา หมายถึง กำเนิดตำนานผางประทีป แม่กาเผือกตาจากชาติกา ก็ไปเกิดเป็นท้าวสกุณาวกาพรหม
บนราวบันใดมีรูปปั้นของไก่ หมายถึง แม่ไก่ที่เอาไข่แม่กาไปฟักไว้จนเกิดลูกชายคนโตและได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์แรกมีพระนามว่ากกุสันโธพระพุทธเจ้าลูกแม่ไก่
ถัดลงมาด้านล่าง มีรูปปั้นนาคแผ่พังพาน ๕ ตัว หมายถึง แม่พญานาคที่เอาไข่กาเผือกใบที่ ๒ ไปเลี้ยงจนเกิดลูกชายคนที่ ๒ และได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ที่ ๒ มีพระนามว่าโกนาคะมะโน พระพุทธเจ้าลูกแม่นาค
วิหารพระเขียวโขงเชื่อมโยงตำนานประวัติพระเจ้าห้าพระองค์ – ๓ –
ฯฯฯฯฯฯฯฯฯ
ในรูปปั้นนั้นพญานาคนั่งอยู่บนหลังเต่า หมายถึง แม่เต่าที่เก็บเอาไข่กาลูกที่ ๓ ไปเลี้ยงไว้ และได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ที่ ๓ มีพระนามว่ากัสสะโปพระพุทธเจ้าลูกแม่เต่า
ถัดมาด้านซ้ายและด้านขวามีรูปปั้นโคนอน หมายถึง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ที่ ๔ แม่โคเอาไปเลี่ยงดูมีพระนามว่าโคตะโม พระพุทธเจ้าลูกแม่โค
สูงขึ้นไปมีรูปเทวดาคู่ยืนอยู่ที่ซุ้มประตู หมายถึง หญิงชาวบ้านที่ได้เก็บไข่แม่กาไปเลี้ยงดูจนเติบใหญ่เป็นน้องสุดท้ององค์ที่ ๕ และได้จุติเกิดมาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ คือ พระพุทธเจ้าศรีอริยะเมตไตรย ซึ่งในขณะนี้ยังเสวยสุขอยู่ในเทวโลก รอการสิ้นอายุพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าโคตมะ ๕,๐๐๐ ปีผ่านไปก็จะลงมาจุติ
ภายในพระวิหารพุทธอัญญรัตนมหานทีศรีหริภุญชัยมีมณฑปทรงล้านนา ด้านล่างประดิษฐานพระพุทธเมตไตรจำลองมาจากพุทธคยาตอนที่พระพุทธเจ้าโคตมะบรรลุธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ด้านบนเป็นที่ประดิษฐานพระเขียวโขง หมายถึง พระพุทธเจ้าโคตมะที่มีอายุพระพุทธศาสนาผ่านมาถึงกึ่งพุทธกาล ๒๕๕๐ ปีของยุคพระพุทธเจ้าโคตมะ ซึงพระครูบาอินทร ปัญญาวัฑฒโนและญาติโยมพร้อมทั้งพุทธบริษัทได้ตั้งใจสร้างบูชา
พระคุณของพระรัตนตรัย และภายในวิหารยังมีมณฑปพระเขี้ยวแก้วซึ้งเป็นพระเขี้ยวแก้วของพระมหาสารีบุตรด้านซ้ายบน ซึ่งเหมือนพระเขี้ยวแก้วของเมืองจีน เป็นของสำคัญอีกชิ้นหนึ่ง
นอกจากนั้นก็มีพระพุทธรูปแก้วขาวของเก่าเมืองลำพูน รวมทังพระเครื่องสกุลหริภุญชัยซึ่งหาได้ยากอีกมากมาย
ขอผลบุญนี้จงเป็นผลปัจจัยให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้ถึงซึ้งพระนิพพานในอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นเทอญฯ
พระครูปัญญาธรรมวัฒน์(พระครูบาอินทร ปัญญาวัฑฒโน)
เจ้าอาวาสวัดสันป่ายางหลวง
อ.เมือง จ.ลำพูน
๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๐ วันศุกร์ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๗ (เดือน๙ เหนือ)
———————————————————————————
จัดทำโดย ร้านเจซี-คอมพิวเตอร์ลำพูน
——————————————————
จัดทำโดย พร้อมรับเหมาก่อสร้าง เชียงใหม่ช่างไฟฟ้า กล้องวงจรปิดลำพูน
ร้านเจซี-คอมพิวเตอร์ลำพูน กล้องวงจรปิดลำพูน เชียงใหม่
ติดต่อ 086-654-9814 k.เจซี-คอม และ 098-696-4544 K.ต้อม
เวปเพจ: พร้อมรับเหมาก่อสร้าง.com
เวป jccomputer-lamphun.com ร้านเจซี-คอมพิวเตอร์ลำพูน
เวป cctv and it service .com ซีซีทีวีแอนด์ไอทีเซอร์วิส กล้องวงจรปิดลำพูน เชียงใหม่
Tel:098-6964544 : 086-654-9814 พี่ต้อม
เวป jccomputer-lamphun.com ร้านเจซี-คอมพิวเตอร์ลำพูน
เวป cctv and it support .com หจก.ซีซีทีวีแอนท์ไอทีซัพพอร์ต
cctvanditservice.com cctvanditsupport.com jccomputer-lamphun.com